ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ukiyo journal - 日本と世界をつなぐ新しいニュースメディア โลโก้
  • บทความทั้งหมด
  • 🗒️ สมัครสมาชิก
  • 🔑 เข้าสู่ระบบ
    • 日本語
    • English
    • 中文
    • Español
    • Français
    • 한국어
    • Deutsch
    • हिंदी
cookie_banner_title

cookie_banner_message นโยบายความเป็นส่วนตัว cookie_banner_and นโยบายคุกกี้ cookie_banner_more_info

การตั้งค่าคุกกี้

cookie_settings_description

essential_cookies

essential_cookies_description

analytics_cookies

analytics_cookies_description

marketing_cookies

marketing_cookies_description

functional_cookies

functional_cookies_description

การสะดุ้งตื่นจากการงีบหลับ! สำหรับคนที่ตื่นจากฝันว่าตก: ความ "ตกใจ" นั้นอาจเป็นความเข้าใจผิดของสมองก็ได้

การสะดุ้งตื่นจากการงีบหลับ! สำหรับคนที่ตื่นจากฝันว่าตก: ความ "ตกใจ" นั้นอาจเป็นความเข้าใจผิดของสมองก็ได้

2025年12月06日 10:24

1. ทำไมถึงเกิดอาการสะดุ้งก่อนหลับ?

ในตอนกลางคืน หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้วก็เข้านอน
ในขณะที่จิตสำนึกเริ่มห่างหายไป
――ดังกึก!


ขาหรือแขนกระตุกอย่างแรงจนปลุกตัวเองให้ตื่นขึ้นมา
หลายคนอาจเคยทำให้คู่รักที่นอนข้างๆ ตกใจ


ปรากฏการณ์นี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าHypnic Jerkในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "การกระตุกตอนหลับ" หรือ "Myoclonus ตอนหลับ" เป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ทั่วไป โดยประมาณ70% ของคนทั่วโลกเคยประสบในช่วงใดช่วงหนึ่งของชีวิตThe Independent


ลักษณะเด่นคือ ไม่เพียงแค่กระตุก แต่ยังมาพร้อมกับ**"ฝันว่าตก" หรือ "รู้สึกสะดุด"** เช่น ฝันว่าพลาดขั้นบันไดหรือหล่นจากหน้าผา ทำให้ร่างกายแข็งเกร็งและตื่นขึ้นมา


2. ความเข้าใจผิดของสมองที่ทำให้เกิดการกระตุก

แล้วในร่างกายเกิดอะไรขึ้น?

นักวิจัยการนอนหลับอธิบายว่า Hypnic Jerk เป็น**"ความเข้าใจผิดเล็กๆ ของสมอง"เมื่อคนกำลังจะหลับ กล้ามเนื้อจะค่อยๆ ผ่อนคลายและแรงในร่างกายจะลดลง การผ่อนคลายตามธรรมชาตินี้บางครั้งสมองอาจเข้าใจผิดว่า"กำลังจะล้ม" หรือ "กำลังจะตก"**The Independent


ผลที่ตามมาคือ คำสั่ง "อันตราย! ตั้งตัวใหม่!" ถูกส่งไปยังกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายหรือแขนขาข้างหนึ่งกระตุกอย่างแรง การหดตัวของกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วนี้คือ Hypnic Jerk


ในทางการแพทย์ การกระตุกของกล้ามเนื้อชั่วคราวนี้เรียกว่า**Myoclonus** และ Hypnic Jerk ที่เกิดขึ้นตอนหลับถือเป็นหนึ่งในประเภทของมันウィキペディア


สำหรับหลายคนมันไม่มีความเจ็บปวดและใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีอย่างไรก็ตาม อาจมีอาการใจเต้นแรงหรือหายใจเร็วขึ้นชั่วขณะ หรือรู้สึกเหมือนตกลงไปในเหว ซึ่งอาจทำให้บางคนรู้สึกไม่สบายใจ


3. เป็นสัญญาณของโรคหรือไม่? กรณีที่ควรกังวลและไม่ควรกังวล

สรุปคือHypnic Jerk มักจะไม่เป็นอันตรายต่อคนส่วนใหญ่และไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเป็นพิเศษ

ปัญหาคือมันเกิดขึ้นบ่อยแค่ไหนและมีอาการอื่นร่วมด้วยหรือไม่


กรณีที่ไม่ต้องกังวล

  • เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

  • ไม่มีความเจ็บปวดและสามารถกลับไปหลับได้ทันที

  • ไม่มีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

ในระดับนี้ ถือว่าเป็นเรื่องปกติของร่างกายThe Independent


กรณีที่ควรระวัง

ในทางกลับกัน หากเกิดกรณีต่อไปนี้ ควรปรึกษาแพทย์

  • เกิดขึ้นเกือบทุกคืนจนไม่สามารถนอนได้

  • กล้ามเนื้อกระตุกต่อเนื่องในตอนกลางวัน

  • มีอาการสั่นหรือเคลื่อนไหวไม่คล่องแคล่ว เดินยาก หรือมีอาการทางประสาทอื่นๆ ร่วมด้วย


มีการวิจัยบางชิ้นที่ชี้ว่า Hypnic Jerk อาจปรากฏเป็นอาการเริ่มต้นของโรคพาร์กินสันแต่ในกรณีนี้มักจะมีอาการอื่นๆ เช่น การเคลื่อนไหวช้า หรือ "REM Sleep Behavior Disorder" ซึ่งเป็นอาการที่แสดงออกในฝันร่วมด้วยดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องสงสัยโรคเพียงเพราะ Hypnic JerkThe Independent


4. ยาและคาเฟอีนมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่? สิ่งที่วิทยาศาสตร์พบ

มีรายงานว่าไม่เพียงแค่พฤติกรรมการใช้ชีวิตเท่านั้น แต่ยาหรือสารเสพติดก็มีผลต่อการเกิด Hypnic Jerk


ความสัมพันธ์กับยาต้านซึมเศร้า (SSRI)

มีรายงานบางกรณีที่ระบุว่าผู้ที่ใช้ยาต้านซึมเศร้ากลุ่ม SSRI (Escitalopram, Sertraline, Fluoxetine เป็นต้น) มี Hypnic Jerk บ่อยครั้งเมื่อหยุดหรือเปลี่ยนยาแล้วอาการดีขึ้น จึงมีการเตือนให้ระวังว่าอาจเป็นผลข้างเคียงThe Independent


อย่างไรก็ตาม นี่เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ไม่บ่อยและไม่ควรหยุดยาเอง หากรู้สึกว่าอาจเป็นเพราะยา ควรปรึกษาแพทย์ที่สั่งจ่ายยา


คาเฟอีน นิโคติน และสารกระตุ้นอื่นๆ

นอกจากนี้ ยังมีการชี้ว่าเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น เครื่องดื่มชูกำลัง นิโคติน และสารกระตุ้นที่แรงอย่างโคเคน อาจเพิ่มความถี่ของ Hypnic JerkThe Independent


การดื่มคาเฟลาเต้หรือเครื่องดื่มชูกำลังจนถึงก่อนนอน หรือการสูบบุหรี่ต่อเนื่องจนดึก จะทำให้ระบบประสาทอยู่ในสภาวะตื่นเต้นเกินไปเมื่อเข้านอน ทำให้สมองเกิด "ความผิดพลาด" ได้ง่าย


5. ทำไมถึงเพิ่มขึ้นเมื่อเหนื่อย เครียด หรือขาดการนอน

ในทางการแพทย์การนอนหลับ มีการระบุปัจจัยที่ทำให้ Hypnic Jerk เกิดขึ้นง่ายขึ้นดังนี้The Independent

  • การขาดการนอนหรือการนอนที่ไม่เป็นเวลา

  • ความเครียดหรือความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น

  • การบริโภคสารกระตุ้นอย่างคาเฟอีนหรือนิโคตินมากเกินไป

  • การออกกำลังกายหนักก่อนนอน

เมื่อสมองอยู่ในสภาวะ "ตึงเครียด" จากการขาดการนอนหรือความเครียด การผ่อนคลายของกล้ามเนื้อเมื่อเริ่มหลับอาจถูกตีความว่าเป็น "อันตราย" แทนที่จะเป็น "การพักผ่อน"


การออกกำลังกายหนักก่อนนอน เช่น การไปยิมตอนดึก จะกระตุ้นระบบประสาทซิมพาเทติก ทำให้หัวใจเต้นเร็วและอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้น เมื่อเข้านอนระบบประสาทยังคงตื่นเต้น ทำให้ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นเล็กๆ น้อยๆ ในการหลับได้ง่ายขึ้น


6. ประสบการณ์ "สะดุ้งตอนหลับ" ที่แพร่หลายในโซเชียลมีเดีย

Hypnic Jerk นี้ ในปัจจุบันเป็นที่นิยมในโซเชียลมีเดียในฐานะ "เรื่องปกติ"


ใน X (Twitter เดิม) และ TikTok มีการแชร์โพสต์ดังนี้

  • "เกือบหลับแล้วขากระตุกแรงจนเตะรั้วเตียง ตื่นขึ้นมาด้วยเสียงกรีดร้องของตัวเอง"

  • "เกือบหลับในระหว่างประชุมแล้วร่างกายสะดุ้งแรง แถมไมค์เปิดอยู่ อายสุดๆ"

  • "ฝันว่าตกแล้วกระโดดขึ้นจากเตียง แมวข้างๆ ตกใจสุดๆ"

(※ข้อความข้างต้นเป็นการสร้างใหม่จากโพสต์จริงในรูปแบบ "เรื่องปกติ")


เมื่อค้นหาแฮชแท็ก "#hypnicjerk" "#สะดุ้งตอนหลับ" "#sleep twitch" จะพบความคิดเห็นหลากหลาย ตั้งแต่**"คิดว่าหัวใจจะหยุดเต้น" "คิดว่าผีมาสัมผัส"** ไปจนถึง
"วันนี้ก็มี Hypnic Jerk อีกแล้ว คงต้องพิจารณาการนอนของตัวเอง"
ซึ่งบ่งบอกถึงการรับรู้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของตัวเอง


จากฝั่งของคู่รัก

  • "ภรรยากระตุกแรงตอนหลับจนคิดว่าแผ่นดินไหว"

  • "แฟนกระตุกแรงจนเกือบตกเตียง"

โพสต์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่า


ปรากฏการณ์ในร่างกายของคนหนึ่งสามารถส่งผลต่อการนอนของคนที่นอนข้างๆ


7. 5 ข้อแนะนำในการรับมือกับ Hypnic Jerk

แม้ว่าจะ "ไม่เป็นอันตราย" แต่ถ้าเกิดบ่อยเกินไป จะทำให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างนอนไม่หลับ ดังนั้น เราได้รวบรวมวิธีดูแลตัวเองที่สามารถเริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้เพื่อบ

← กลับไปที่รายการบทความ

contact |  ข้อกำหนดการใช้งาน |  นโยบายความเป็นส่วนตัว |  นโยบายคุกกี้ |  การตั้งค่าคุกกี้

© Copyright ukiyo journal - 日本と世界をつなぐ新しいニュースメディア สงวนลิขสิทธิ์