ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
ukiyo journal - 日本と世界をつなぐ新しいニュースメディア โลโก้
  • บทความทั้งหมด
  • 🗒️ สมัครสมาชิก
  • 🔑 เข้าสู่ระบบ
    • 日本語
    • English
    • 中文
    • Español
    • Français
    • 한국어
    • Deutsch
    • हिंदी
cookie_banner_title

cookie_banner_message นโยบายความเป็นส่วนตัว cookie_banner_and นโยบายคุกกี้ cookie_banner_more_info

การตั้งค่าคุกกี้

cookie_settings_description

essential_cookies

essential_cookies_description

analytics_cookies

analytics_cookies_description

marketing_cookies

marketing_cookies_description

functional_cookies

functional_cookies_description

เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมของคุณบน Nintendo Switch 2! วิธีเลือกการ์ด microSD ที่เหมาะสม

เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมของคุณบน Nintendo Switch 2! วิธีเลือกการ์ด microSD ที่เหมาะสม

2025年06月05日 23:42


Nintendo Switch 2 มาแล้ว! เคล็ดลับการเลือกสตอเรจเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ราบรื่น




แนะนำ: Switch 2 ที่พัฒนาขึ้น ความสามารถของมันคืออะไร?

ในปี 2025 ในที่สุดเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่จากนินเทนโด "Nintendo Switch 2" ก็ได้เปิดตัวแล้ว มีกราฟิกประสิทธิภาพสูง สตอเรจในตัวขนาด 256GB และการออกแบบที่พกพาสะดวก มีหลายจุดที่พัฒนาขึ้นจากเครื่องรุ่นก่อน โดยเฉพาะสำหรับเกมเมอร์ชาวญี่ปุ่นที่ยังคงนิยม Switch ที่สามารถเล่นได้ทั้งที่บ้านและนอกบ้าน ในขณะเดียวกัน "การใช้สตอเรจ" ก็กลายเป็นจุดสนใจที่สำคัญ





แม้จะมี 256GB ในตัว แต่ก็ยังไม่พอ? ความจริงคือมันเต็มอย่างรวดเร็ว

ใน Switch 2 สตอเรจในตัวได้เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 32GB หรือ 64GB เป็น 256GB อย่างไรก็ตาม ขนาดข้อมูลของซอฟต์แวร์เกมล่าสุดก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน มีเสียงบ่นมากมายว่าพื้นที่ว่างหมดหลังจากดาวน์โหลดเพียงไม่กี่เกม


ตัวอย่างเช่น


  • 'Cyberpunk 2077': ประมาณ 59GB

  • 'Split Fiction': ประมาณ 69GB



หากติดตั้งเกมใหญ่ๆ เช่นนี้ 2-3 เกม พื้นที่ก็จะเต็มอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ข้อมูลการบันทึก การอัปเดต และ DLC (เนื้อหาที่ดาวน์โหลดได้) ก็ยังใช้พื้นที่อีกด้วย





เป็นที่พูดถึงใน SNS "สตอเรจของ Switch 2 ไม่พอ"

ในความเป็นจริง มีโพสต์จำนวนมากใน SNS ที่บอกว่า "ซื้อ Switch 2 มาแล้วแต่สตอเรจเต็มเร็ว" และ "ซื้อ microSD card เพิ่ม"


"ซื้อ SD card 256GB สำหรับ Switch 2 แล้ว สบายใจได้!"
"ขนาดเกมของ Switch 2 ใหญ่มาก ต้องมี microSD แล้วล่ะ…"


โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ผู้ใช้หลายคนชอบเวอร์ชันดาวน์โหลดมากกว่าเวอร์ชันแพ็กเกจ ดังนั้นปัญหาสตอเรจจึงยิ่งรุนแรงขึ้น





ทำไมต้องใช้ microSD card?

Nintendo Switch 2 สามารถขยายพื้นที่ได้ง่ายๆ ด้วยการใช้ microSD card นอกเหนือจากสตอเรจในตัว นี่เป็นจุดที่ดีมาก แต่ในทางกลับกัน มันก็หมายความว่า "ถ้าไม่เพิ่มก็จะใช้งานได้ไม่สะดวก" เนื่องจากข้อมูลเกมมีขนาดใหญ่ขึ้น


นอกจากนี้ สำหรับผู้ใช้ที่ใช้ฟังก์ชันการถ่ายภาพหน้าจอหรือการบันทึกบ่อยๆ การมีพื้นที่เก็บข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็น





พื้นฐานการเลือก microSD card: UHS-I เป็นกฎเหล็ก

แล้วควรเลือก microSD card แบบไหน?หากใช้กับ Switch 2 แนะนำให้ใช้การ์ดที่รองรับมาตรฐาน "UHS-I (Ultra High Speed Phase I)" แม้ว่าจะมีมาตรฐานที่สูงกว่าอย่าง UHS-II หรือ UHS-III แต่เนื่องจากตัวเครื่อง Switch ไม่รองรับ จึงเพียงพอที่ UHS-I


สิ่งที่สำคัญเป็นพิเศษคือความเร็วในการอ่าน โดยทั่วไปแนะนำให้มี "ความเร็วในการอ่าน 90MB/s ขึ้นไป" เป็นเกณฑ์





การเลือกความจุ: ตั้งแต่ 128GB ถึง 1TB อันไหนเหมาะสมที่สุด?

แม้ว่า microSD การ์ดจะมีจำหน่ายในหลายความจุ แต่ให้พิจารณาดังนี้:


  • 128GB: สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ถ้าเล่นเกมขนาดเล็กเป็นหลักก็เพียงพอ

  • 256GB: แบบสมดุล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมีเกมมากกว่า 10 เกม

  • 512GB: เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดาวน์โหลดเกม หลายคนรู้สึกว่า "คุ้มค่าที่สุด"

  • 1TB: สำหรับผู้ใช้หนัก เตรียมพร้อมสำหรับการขาดแคลนความจุในอนาคต






microSD การ์ดที่แนะนำในญี่ปุ่นคืออันนี้!

ในญี่ปุ่นมี microSD การ์ดที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและเข้ากันได้ดีกับ Switch 2 ดังนี้



▶ SanDisk Extreme microSDXC



มีความเร็วและความทนทานที่มั่นคง ความเร็วในการอ่าน 160MB/s และรวดเร็ว



▶ Samsung EVO Plus



มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ และมีจำหน่ายในประเทศมาก



▶ Lexar Professional



เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ใช้ที่เน้นความคุ้มค่า มาพร้อมการรับประกันให้ความมั่นใจ





ข้อควรระวังในการซื้อ

แม้ว่า microSD card จะมีสินค้าราคาถูกมากมายในตลาด ควรระวังสินค้าปลอมหรือเวอร์ชันต่างประเทศเป็นสิ่งจำเป็น


  • ข้อความบนบรรจุภัณฑ์ดูแปลกๆ

  • ราคาถูกเกินไป

  • รีวิวที่บอกว่า "เป็นของปลอม"



หากพบเห็นสิ่งเหล่านี้ ควรหลีกเลี่ยงการซื้อ จะดีกว่าถ้าซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้ เช่น Yodobashi, Bic Camera, หรือ Amazon อย่างเป็นทางการ





วิธีการเปลี่ยนและย้ายข้อมูล microSD card

หากคุณต้องการเปลี่ยน microSD card ที่ใช้อยู่เป็นอันใหม่ คุณสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้เพื่อย้ายข้อมูลได้อย่างราบรื่น


  1. ปิดเครื่อง Switch อย่างสมบูรณ์

  2. ถอด SD card เก่าออก และสำรองข้อมูลในคอมพิวเตอร์

  3. คัดลอกข้อมูลไปยัง SD card ใหม่ด้วยโครงสร้างไฟล์เดิม

  4. ใส่การ์ดใหม่ใน Switch และรีสตาร์ท



ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถใช้ข้อมูลเซฟและภาพหน้าจอได้ตามปกติ





การจัดการพื้นที่จัดเก็บเพื่อสนับสนุนประสบการณ์การเล่นเกม

ไม่เพียงแค่เพิ่มพื้นที่จัดเก็บ แต่การจัดระเบียบข้อมูลอย่างสม่ำเสมอก็สำคัญเช่นกัน


  • ลบเกมหรือวิดีโอที่ไม่ได้ใช้

  • ย้ายภาพหน้าจอไปยังคอมพิวเตอร์

  • เตรียม microSD สองใบเพื่อใช้แยกตามประเภท



ด้วยวิธีนี้ คุณสามารถใช้ประสิทธิภาพของ Switch 2 ได้อย่างเต็มที่ผ่านการจัดการพื้นที่จัดเก็บอย่างชาญฉลาด





สรุป: การเลือก microSD อย่างชาญฉลาดคือกุญแจสำคัญสู่ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด

การมาของ Nintendo Switch 2 ทำให้การเพลิดเพลินกับเกมขยายตัวมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีปัญหาใหม่เกี่ยวกับพื้นที่เก็บข้อมูลที่ต้องพิจารณา


การไม่พึงพอใจกับพื้นที่เก็บข้อมูลภายใน 256GB และการเลือก microSD ที่เหมาะสมกับสไตล์การเล่นของคุณคือก้าวแรกสู่ชีวิตการเล่นเกมที่สะดวกสบาย คัดเลือกความเร็ว ความจุ และความน่าเชื่อถือเพื่อเลือกการ์ดที่เหมาะกับคุณที่สุด





บทความอ้างอิง

microSD ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ Nintendo Switch 2
แหล่งที่มา: https://www.engadget.com/gaming/nintendo/best-microsd-cards-for-nintendo-switch-2-160052947.html?src=rss

← กลับไปที่รายการบทความ

contact |  ข้อกำหนดการใช้งาน |  นโยบายความเป็นส่วนตัว |  นโยบายคุกกี้ |  การตั้งค่าคุกกี้

© Copyright ukiyo journal - 日本と世界をつなぐ新しいニュースメディア สงวนลิขสิทธิ์